ของโบราณ,ของสะสม,ของเก่าโบราณ,ของเก่ามีราคา,ตลาดค้าของเก่า.ของเก่าวันนี้,antiquetoday

ของโบราณทรงคุณค่าของไทย
Showing posts with label ของโบราณ. Show all posts
Showing posts with label ของโบราณ. Show all posts

Friday, October 13, 2017

ปิ่นโต


ปิ่นโต




ปิ่นโตของอินเดีย

ปิ่นโต เป็นภาชนะชนิดหนึ่งสำหรับบรรจุอาหาร ประกอบด้วยภาชนะรูปทรงกระบอกซ้อนกันเป็นชั้นๆ มีโครงเป็นโลหะเรียกว่าขาร้อยตรงส่วนหูสองข้าง หิ้วได้ มักจะมีตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป ลักษณนามเรียก "เถา"

Wednesday, October 11, 2017

เครื่องพิมพ์ดีด


เครื่องพิมพ์ดีด




เครื่องพิมพ์ดีด Olivetti Lettera 22 รุ่นแรก

เครื่องพิมพ์ดีด เป็นเครื่องกลที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้แทนการเขียนด้วยมือ ทำให้เกิดความสะดวกในการอ่าน และการเผยแพร่ มีลักษณะเป็นแป้นพิมพ์ แล้วใช้คานกระแทกลงบนผ้าคาร์บอน ทับลงบนกระดาษอีกที่หนึ่ง ปัจจุบัน พัฒนาเป็นเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้า สามารถพิมพ์ตัวหนังสือได้มากขึ้น และออกแรงกดน้อยลง

Tuesday, October 10, 2017

แสตมป์ชุดแรกของโลก



แสตมป์ดวงแรก

แสตมป์ชุดแรกของโลก เพนนีแบล็ค

กำเนิด แสตมป์ชุดแรกของโลก
ปี คศ.1836 (พ.ศ.2379) นาย โรว์แลนด์ ฮิลล์ ( Rowland Hill ) ชาวอังกฤษ ได้เสนอวิธี คิดค่าธรรมเนียมในการฝากส่งจดหมาย โดยให้ถือน้ำหนักเป็นเกณฑ์ และกำหนดให้มีมาตรฐานต่อจดหมาย 1 ฉบับ ต่อ 1 เพนนี นอกจากนี้ได้เสนอให้มีการ จัดพิมพ์ตราไปรษณียากร หรือ แสตมป์ ( Postage Stamp ) สำหรับให้ผู้ใช้บริการซื้อไว้เพื่อปิดผนึกบนห่อซองจดหมาย ณ บริเวณมุมบนด้านขวามือ เพื่อแสดงให้ทราบว่าจดหมายฉบับนั้นได้ชำระค่าธรรมเนียมแล้ว

Saturday, October 7, 2017

ชีทที่ระลึกของเก่ามีราคา

ชีทที่ระลึก



ชีทที่ระลึกแบบปรุรู

ชีทที่ระลึกแบบไม่ปรุรู
แผ่นตราไปรษณียากรที่ระลึก หรือ ชีทที่ระลึก (อังกฤษsouvenir sheet หรือ miniature sheet) เป็นแผ่นแสตมป์อย่างหนึ่ง มีขนาดเล็ก ออกมาสำหรับการสะสมโดยเฉพาะ รอบ ๆ แสตมป์มักมีการพิมพ์ภาพหรือรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อความสวยงาม

Thursday, October 5, 2017

เปลือกหอย ของโบราณน่าศึกษา



เปลือกหอย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เปลือกหอยนานาชนิด
เปลือกหอย หรือ ฝาหอย หรือ กาบหอย คือ สสารที่เป็นของแข็งที่ห่อหุ้มลำตัวภายนอกของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในไฟลัมมอลลัสคา หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า หอย มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ซึ่งหอยจะใช้เป็นเครื่องอำพรางอันตรายจากสัตว์อื่น เป็นสัญลักษณ์สื่อสารระหว่างกัน และช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำ[1]

Sunday, October 1, 2017

ธงชาติไทย

ธงชาติไทย


"ธงไตรรงค์" เปลี่ยนทางมาที่นี่ สำหรับความหมายอื่น ดูที่ ธงไตรรงค์ (แก้ความกำกวม)

ธงไตรรงค์
Flag of Thailand.svg
ชื่อธงธงไตรรงค์
สัดส่วนธง2:3
ประกาศใช้28 กันยายน พ.ศ. 2460 (100 ปี) (มีผลบังคับใช้ 30 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา)
ลักษณะธงสามสีห้าแถบ พื้นแดง-ขาว-น้ำเงิน-ขาว-แดง แถบกลางกว้างเป็น 2 เท่าของแถบสีแดงและขาว
ออกแบบโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
Naval Ensign of Thailand.svg
ธงไตรรงค์ในรูปแบบต่าง ๆ
ชื่อธงธงราชนาวี
การใช้000001
สัดส่วนธง2:3
ประกาศใช้28 กันยายน พ.ศ. 2460 (มีผลบังคับใช้ 30 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา)
ลักษณะธงชาติ กลางเป็นวงกลมสีแดง มีรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นหันหน้าเข้าเสา
ธงชาติไทย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ธงไตรรงค์ มีลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้สีหลักในธง 3 สี คือ สีแดง ขาว และสีน้ำเงินขาบ ภายในแบ่งเป็นแถบ 5 แถบ แถบในสุดสีน้ำเงิน ถัดมาด้านนอกทั้งด้านบนและล่างเป็นสีขาวและสีแดงตามลำดับ แถบสีน้ำเงินมีขนาดใหญ่กว่าแถบสีอื่นเป็น 2 เท่า ความหมายสำคัญของธงไตรรงค์นั้นหมายถึงสถาบันหลักทั้งสามของประเทศไทย คือ ชาติ (สีแดง) ศาสนา (สีขาว) และพระมหากษัตริย์ (สีน้ำเงิน) สีทั้งสามนี้เองคือที่มาของการเรียกชื่อธงนี้ว่าธงไตรรงค์ (ไตร = สาม, รงค์ = สี)
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ธงนี้เป็นธงชาติไทย[1] (ขณะนั้นยังเรียกชื่อประเทศว่าสยาม) เมื่อช่วงปลายปี พ.ศ. 2460 เพื่อแก้ไขปัญหาการชักธงช้างเผือก (ซึ่งใช้เป็นธงชาติมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4) กลับด้าน และเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตร[2]

ประวัติ

กำเนิดธงสยาม

ประวัติศาสตร์การใช้ธงเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย สามารถสืบได้แต่เพียงความว่า มีการใช้ธงสำหรับเป็นเครื่องหมายของกองทัพกองละสีและใช้ธงสีแดงเป็นเครื่องสำหรับเรือกำปั่นเดินทะเลทั่วไปมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และยังไม่มีธงชาติไว้ใช้ดังที่เข้าใจในปัจจุบัน[3]
ในพระนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้กล่าวตามความในจดหมายเหตุต่างประเทศแห่งหนึ่งว่า ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231) เรือค้าขายของฝรั่งเศสลำหนึ่งได้เดินทางมากรุงศรีอยุธยา เมื่อมาถึงที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ของไทยไว้ว่า
ปกติคนต่างชาติที่ล่องมาทางเรือจะไปอยุธยา ต้องผ่านเจ้าพระยา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกิดที่ป้อมวิไชยเยนทร์ หรือป้อมฝรั่ง เพราะพระยาวิชเยนทร์ เกณฑ์แรงงานฝรั่งมาสร้างไว้ ปัจจุบันคือ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ตั้งอยู่ปากคลองบางกอกใหญ่ ปกติเรือสินค้าสำคัญ เรือที่มากับราชทูตที่จะผ่านต้องมีธรรมเนียมประเพณีคือ ชักธงประเทศของเขาบนเรือ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่า มาถึงแล้ว เมื่อเรือฝรั่งเศสชักธงชาติของตัวเองขึ้น ฝ่ายสยามยิงสลุตคำนับตามธรรมเนียม ซึ่งขณะเดียวกันสยามเองต้องชักธงขึ้นด้วย เพื่อตอบกลับว่า ยินดีต้อนรับ แต่ตอนนั้นทหารประจำป้อมวิไชยเยนทร์ไม่เคยพบประเพณีแบบนี้ และสยามไม่มีธงสัญลักษณ์ที่ใช้เป็นธงชาติมาก่อน จึงคว้าผ้าที่วางอยู่แถวนั้น ซึ่งดันหยิบธงชาติฮอลันดาชักขึ้นเสาแบบส่งเดช เมื่อทหารฝรั่งเศสเห็นก็ตกใจไม่ยอมชักธงและไม่ยอมยิงสลุต จนกว่าจะเปลี่ยน เพราะการที่ได้ชักเอาธงชาติฮอลันดา (ปัจจุบันคือประเทศเนเธอร์แลนด์) ซึ่งในขณะนั้นฝรั่งเศสกับฮอลันดาเป็นศัตรูกัน) ฝ่ายไทยได้แก้ปัญหาโดยชักผ้าสีแดงขึ้นแทนธงชาติฮอลันดา ฝรั่งเศสจึงยอมยิงสลุตคำนับตอบ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงถือกันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ธงชาติไทย[4] โดยทหารสยามประจำป้อมก็เปลี่ยนเป็นผ้าสีแดงที่หาได้ในตอนนั้น และต้นกำเนิดธงก็เริ่มขึ้น นับจากนั้น ธงที่ใช้ไม่ว่าจะใช้บนเรือหลวง เรือราษฎร ใช้บนป้อมประจำการก็ล้วนเป็นสีแดง""

Saturday, September 30, 2017

Monday, September 25, 2017

ตลาดของเก่าในกรุงเทพฯ 8.

                            ตลาดของเก่าในกรุงเทพฯ  8. 



ถนนคนเดินวังเดิมวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร


ตลาดนัดกลางคืน กรุงเทพฯ


         ตลาดค้าของเก่า ถนนคนเดินอยู่ติดกับหอประชุมกองทัพเรือ ถนนพระราชวังเดิม ทางไปวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือภาษาเรียกกันติดปากสั้นๆ วัดแจ้งนั่นเอง ส่วนภาษาย่อสั้นๆที่นิยมเรียกกันคือ วัดอรุณ เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยาใครที่ได้มาเดินถนนคนเดินที่นี่จะรับรู้ได้ถึงบรรยากาศความเป็นไทยอยู่นิด ๆ นั่นเป็นเพราะตลาดต้องการให้เราได้ตระหนักถึงสายสัมพันธ์ระหว่างวัด วัง และชุมชน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยผูกพันมาเนิ่นนาน ภายในมีร้านค้าของเก่าย้อนยุค ของเก่าโบราณ ของเก่าสะสม แผงพระเครื่อง เหรียญเก่าที่นักสะสมไม่ควรพลาด ส่องกล้องกันดีๆ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย เป็นของคู่กันสำหรับคอนักนิยมของเก่า ของโบราณ ร้านอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาหมู กระเพาะปลา ทอดมัน ส้มตำ หอยทอดโบราณ ผัดไทย น้ำผลไม้ ร้านขนมต่าง ๆ ใครที่อยากมาสัมผัสตลาดที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นไทย...ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด

Sunday, September 24, 2017

ตลาดของเก่าในกรุงเทพฯ 7.

                              ตลาดของเก่าในกรุงเทพฯ  7.


The JAS Walking Street  7
.


ตลาดนัดกลางคืน กรุงเทพฯ



ตลาดนัดกลางคืน กรุงเทพฯ


ตลาดนัดกลางคืน กรุงเทพฯ


          ตลาดนัดย่านวังหิน ตั้งอยู่ภายในโครงการ The Jas โดยพื้นที่ข้างหน้าโครงการเป็นลานโล่ง ที่เปิดให้พ่อค้าแม่ขายได้เข้ามาจับจองพื้นที่ขายของ ความพิเศษของสินค้าที่ขายในตลาดแห่งนี้จะไม่ซ้ำกับสินค้าที่ขายอยู่ภายใน The Jas รวมถึงการได้เห็นรถคลาสสิกสวย ๆ ที่จอดเรียงรายให้ลูกค้าได้เดินเที่ยวชม พร้อมกับแวะอุดหนุนสินค้าไปด้วย ยิ่งถ้าได้มาเดินในช่วงกลางคืน เราจะเห็นแสงไฟในตลาดที่ระยิบระยับ ตัดกับสีของรถคลาสสิก มองไปมองมานับว่าเพลิดเพลินตามากทีเดียว

Saturday, September 23, 2017

ตลาดของเก่าในกรุงเทพฯ 6.


                                ตลาดของเก่าในกรุงเทพฯ  6.


ตลาดนัดรถโบราณปากซอยหทัยราษฎร์  6.


ตลาดนัดกลางคืน กรุงเทพฯ




ตลาดนัดกลางคืน กรุงเทพฯ





        
           ตั้งอยู่ปากซอยหทัยราษฎร์ เป็นตลาดนัดกลางคืนที่มีสินค้าแนว ๆ ขายเพียบ ทั้งโซนแฟชั่น โซนคลองถม โซนรถโบราณ และโซนอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกของแนววินเทจ น่าจะถูกใจสำหรับคอ คนชอบของเก่า คนที่ชอบสะสมของเก่า ยิ่งค่ำคืน ตลาดแห่งนี่ นับว่าคึกคักไม่น้อย ยิ่งถ้าได้มาเดินช่วงแดดร่มลมตกยิ่งชิลๆมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมีการแสดงให้คนที่เดินตลาดนัดได้ชมกันแบบฟรี ๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สร้างสีสันยามค่ำคืนให้กับชาวกรุงเทพฯ